ยาดมสมุนไพรอินทน์จันทน์
ยาดมสมุนไพร ยาหม่องสมุนไพร สบู่สมุนไพร ของฝากสมุนไพร ของชำร่วยสมุนไพร
สนใจติดต่อสั่งซื้อ
ยาดมสมุนไพรอินทน์-จันทน์ ท่านสามารถโทรมาสอบถาม หรือสั่ง
ซื้อได้ที่หมายเลข 0815612787,0839239741
วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556
ประวัติหมอชีวกโกมารภัทร
ประวัติปู่ฤๅษี ชีวกโกมารภัทร
หมอชีวกโกมารภัจจ์ เป็นบุตรของนางสาลวดี นางนครโสเภณีประจำเมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ซึ่งตำแหน่งนางนครโสเภณีสมัยนั้น เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติเพราะพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง ต่างจากสมัยนี้เพราะผู้ประกอบอาชีพนี้เป็นที่ดูหมิ่นเหยียดหยามของบุคคลทั่ว ไป นางสาลวดีตั้งครรภ์โดยบังเอิญ เมื่อคลอดบุตรชายออกมาจึงสั่งให้สาวใช้นำไปทิ้งที่กองขยะนอกเมือง เคราะห์ดีที่อภัยราชกุมาร พระราชโอรสของพระเจ้าพิมพิสารไปพบเข้าเสด็จออกไปนอกเมือง จึงทรงนำมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ชื่อ "ชีวก" ตั้งขึ้นตามการกราบทูลตอบคำถามพระองค์ที่ตรัสถามว่า "เด็กยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า" มหาดเล็กกราบทูลว่า "ยังมีชีวิตอยู่" (ชีวโก) ส่วนคำว่า "โกมารภัจจ์" แปลว่า "กุมารที่ได้รับการเลี้ยงดู" หรือ "กุมารในราชสำนัก" อันหมายถึง "บุตรบุญธรรม" นั้นเอง
เมื่อชีวกโกมารภัจจ์โตขึ้นถูกพวกเด็กๆ ในวังล้อเลียนว่า "เจ้าลูกไม่ีมีพ่อ" ด้วยความมานะจึงหนีพระบิดาเลี้ยงไปเรียนศิลปวิทยาที่เมืองตักศิลา เพื่อเอาชนะคำดูหมิ่นของพวกเด็กในวังให้ได้ วิชาที่ชีวกเรียนคือวิชาแพทย์ เนื่องจากไม่มีค่าเล่าเรียนให้อาจารย์จึงอาสาอยู่รับใช้อาจารย์สารพัดแล้ว แต่ท่านจะใช้ อาศัยเป็นเด็กอ่อนน้อมถ่อมตน มีความเคารพเชื่อฟังอาจารย์ จึงเป็นที่โปรดปรานของอาจารย์มาก มีศิลปวิทยาเท่าไร อาจารย์ก็ถ่ายทอดให้หมดโดยไม่ปิดบังอำพราง ชีวกเรียนวิชาแพทย์อยู่ ๗ ปี จึงไปกราบลาอาจารย์กลับบ้านอาจารย์ได้ทดสอบความรู้โดยให้เข้าป่าไปสำรวจดู ว่าต้นไม้ว่าต้นไหนว่าทำยาไม่ได้ให้นำตัวอย่างกลับมาให้อาจารย์ดู ปรากฏว่าเขาเดินกลับมาตัวเปล่า เพราะต้นไม้ทุกต้นใช้ทำยาได้หมด อาจารย์บอกว่าเข้าได้เรียนจบแล้วจึงอนุญาตให้เขากลับ หลังจากกลับมายังเมืองราชคฤห์แล้ว ชีวกได้ถวายการรักษาพระอาการประชวรของพระเจ้าพิมพิสารหายขาดจาก "ภคันทลาพาธ" (โรคริดสีดวงทวาร) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหมอหลวงพร้อมทั้งได้รับพระราชทานสวนมะม่วงให้เป็น สมบัติอีกด้วย
ต่อมาชีวกได้ถวายสวนมะม่วงแห่งนี้ให้เป็นวัดทีประทับของพระพุทธเจ้าและพระ สาวกทั้งหลาย ได้ถวายการรักษาแด่พระบรมศาสดาเมื่อคราวพระองค์ทรงประชวร และถวายตัวเป็นแพทย์ประจำพระองค์อีกด้วย ครั้งหนึ่งเขาได้ถวายการรักษาพยาบาลพระเจ้าจัณฑปัชโชต แห่งกรุงอุชเชนี แคว้นอวันตี หายจากโรคร้าย ได้รับพระราชทานผ้าแพรเนื้อละเอียด (ผ้าสีเวยยกะ ผ้าทอที่แคว้นสีวี) มาผืนหนึ่ง เขานำไปถวายพระพุทธเจ้า เนื่องจากสมัยนั้น พระภิกษุสงฆ์ถือผ้าบังสุกุลอย่างเดียว (คือแสวงหาเศษผ้าที่ชาวบ้านเขาทิ้งแล้ว เช่น ผ้าห่อศพมาเย็บทำจีวร) พระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาตให้รับผ้าจีวรที่คฤหัสถ์ทำถวาย หมอชีวกจึงกราบทูลขอพระพุทธเจ้าให้ทรงรับผ้าแพรที่เขาน้อมถวาย และให้ทรงอนุญาตให้พระสงฆ์รับผ้าจีวรที่ชาวบ้านผู้มีศรัทธาจัดถวายด้วย พระพุทธเจ้าทรงรับผ้าจากหมอชีวก และประทานอนุญาตให้พระสงฆ์รับผ้าที่ชาวบ้านนำมาถวายได้ตั้งแต่บัดนั้น
หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นอุบาสกที่ดีคนหนึ่ง นอกจากการถวายการรักษาพยาบาลพระพุทธเจ้า พระภิกษุสงฆ์ และประชาชนแล้ว ยังหาเวลาเข้าเฝ้าทูลถามปัญหาข้อข้องใจในธรรมะจากพระพุทธองค์อยู่เนืองๆ มีพระสูตรหลายสูตรบันทึกคำสนทนาและปัญหาของหมอชีวก เรื่องที่หมอชีวกนำขึ้นกราบทูลเพื่อความรู้ที่ถูกต้อง ล้วนเป็นเรื่องที่สำคัญน่ารู้ เช่น พระพุทธเจ้าเสวยเนื้อสัตว์หรือไม่ อุบาสกที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร เป็นต้น
ตลอดชีวิตหมอชีวกได้บำเพ็ญแต่สิ่งที่ดีงาม ช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยไม่เลือกยากดีมีจน จนได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นเอตทัคคะ (ผู้เป็นเลิศกว่าคนอื่น) ในทาง "เป็นที่รักของปวงชน" ในวงการแพทย์แผนปัจจุบันนี้ ถือว่าหมอชีวกโกมารภัจจ์เป็น "บรมครูแห่งการแพทย์แผนโบราณ" เป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั่วไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น